สภาลูกหนัง: 4 เหตุผลที่ผมมองว่า ยังไง ‘ผีแดง’ ก็ไม่รอด
ขอเดาทรรศนะเล่น ๆ ในคอลัมน์นี้ว่า จะเป็น ลิเวอร์พูล ที่เป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้สำเร็จ กับศึกแดงเดือดนัดสุดท้ายประจำซีซั่น 2023/24 โดยขอแยกออกมาเป็น 4 ปัจจัยสำคัญด้วยกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันครับ
ลิเวอร์พูล เพิ่งแพ้มาในนัดก่อน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำกับ ลิเวอร์พูล ได้เจ็บแสบมากทีเดียวในศึกเอฟเอ คัพ ที่ผ่านมา ชัยชนะช่วงวินาทีสุดท้ายที่ถีบบั้นเด้าของ ‘หงส์แดง’ ตกรอบไป ทั้ง ๆ ที่จบครึ่งแรก พวกพรี่ ๆ ตุนสกอร์เอาไว้ 1-2 ให้แฟนบอลได้ครื้นเครงในวงดื่มโซดา ด้วยศักดิ์ศรีที่มี ในฐานะทีมที่ใหญ่กว่า แข็งแกร่งกว่า และมีสไตล์การเล่นที่ดุดันเร้าใจกว่า (อันนี้นับเฉพาะช่วงที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไปนะ) ผมมองเหลี่ยมซ้ายแล้ว มองเหลี่ยมขวาเพิ่ม มองมุมบนอีกนิด มองมุมล่างอีกนิดหน่อย ทรงนี้พร้อมบุกขย่มเอาคืนแบบไม่สนหน้าอินทร์ หน้าพรหม แน่นอนครับ
ลิเวอร์พูล ต้องการแชมป์ส่งท้ายให้ JK
โอกาสอันดีงามที่พวกเขาขึ้นนำเป็นจ่าฝูง หาก ลิเวอร์พูล สามารถเก็บผลการแข่งขันของตนเองได้ทั้งหมด ไม่เอาไปทิ้งตกหล่นเองแบบน่าโคกะโหลก เอ้ย เขกกะโหลก ยังไงพวกเขาก็จะเข้าป้ายเส้นชัยเป็นทีมแรก และเถลิงบัลลังก์ แชมป์พรีเมียร์ลีก มาครอบครอง ซึ่งหากทำได้ก็จะเป็นการหยามหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าไปอีกหนึ่งดอก เปรียบเสมือนการเปิดประตูไม่สนกุญแจล็อค ลั่นวาจาให้กึกก้องกันไปว่า “ข้านี่แหละเบอร์หนึ่งของเกาะอังกฤษ” ทาบสถิติคว้าแชมป์ลีกสูงสุดถึง 20 สมัย ส่งท้าย เจอร์เกน คล็อปป์ ที่จะโบกมือลาสโมสรหลังสิ้นสุดฤดูกาล
หากนิยายฉบับนี้จบลงที่ 20-20 เท่ากัน ก็ไปวัดกันหลังจากนั้นว่า ทีมสร้างใหม่ของใครจะไปได้ไกลกว่า ภาษีผมให้ไม่ต่างกันหรอกครับ เพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเวลาคัดสรรผู้จัดการทีมและสตาฟฟ์โค้ชมาพอสมควร ในขณะที่ ลิเวอร์พูล วางรากฐานในเรื่องสภาพแวดล้อมภายในสโมสรไว้อย่างเนืองแน่นเรียบร้อย
ถีบส่ง ‘ปีศาจแดง’ ไปเริ่มต้นใหม่
ในเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด กุมความได้เปรียบเล็กน้อยที่มี เอริค เทน ฮาก กุมบังเหียนอยู่ 2 ขวบฝน แต่ผลงานที่ไร้ซึ่งความคงเส้นคงวา บทจะเก่งก็ตบได้ทุกทีม บทจะกากก็อย่างเกมกับ เชลซี นั่นไง นาทีเดียวโดน 2 เม็ด กลับรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มือเปล่าไปด้วยสกอร์ 4-3 จนทำให้บ่อนพนันถูกกฎหมายในประเทศ ทำการเลื่อนชั้น เอริค เทน ฮาก ขึ้นเป็นเต็งหนึ่งของผู้จัดการทีมที่จะโดนปลดในช่วงปิดซีซั่นนี้
ถ้าหาก ลิเวอร์พูล คว้า 3 แต้มในนัดนี้สำเร็จ นอกจากจะรักษาอันดับที่ 1 ในตารางของตนเองได้แล้ว ยังลดทอนโอกาสการคว้าตั๋วศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ในปีหน้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อีกด้วย และเมื่อเป็นอย่างนั้น คุณคิดว่า ตาเหม่ง ETH จะรอดพ้นจากซองขาวของกลุ่มทุน INEOS ที่เป็นหุ้นส่วนดูแลสโมสรไหมล่ะ? เท่านี้ พวกเขาก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่แต่ต้น กับการพาทีมกลับมาสู่จุดเดิม ในยุครุ่งเรืองที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยทำเอาไว้
มันคือเกมแดงเดือด
ว่ากันว่า ศึกดาร์บี้แมตช์ ไหนก็ไม่มันส์เท่า เกมแดงเดือด เพราะทั้งคู่มีประวัติศาสตร์ที่ห้ำหั่น และไม่กินเส้นกันมาตั้งแต่ยุคโบราณ เมืองของทั้งคู่ตั้งอยู่ที่ ตะวันตกเฉืองเหนือของประเทศอังกฤษ โดยภูมิภาคห่างกันเพียงแค่ 30 ไมล์เท่านั้น ในขณะที่ เมืองแมนเชสเตอร์ โดดเด่นมากในเรื่องการทำธุรกิจค้าขาย ส่วน เมืองลิเวอร์พูล ก็เก่งกาจกว่าใครในเรื่องธุรกิจซื้อเข้า-ส่งออก มันเลยมีทั้งการทำสัญญาเจรจาระหว่างกัน, การเก็บเงินใต้โต๊ะ หรือเอาแค่เรือของ เมืองแมนเชสเตอร์ มาเทียบท่าจอด ก็ต้องเสียค่าตั๋วแล้วใช่ไหมล่ะ?
พูดง่าย ๆ ว่าเกาเหลากันนอกสนามมาตั้งแต่รุ่นโคตรเหง้าแล้ว จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมแฟนบอลพื้นเมืองของทั้งสองสโมสรจะดูมีแพสชั่นที่รุนแรง และให้ความสำคัญกับอีกฝ่ายมากขนาดนี้
วันนี้จากลากันเท่านี้ แล้วคุณล่ะคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะในเกมคู่หยุดโลกนี้?
เขียนโดย The Lite Team
LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง
